Gain Point คือ | เปลี่ยน Pain Point เป็น Gain Point ด้วย ซอฟต์แวร์ ช่วยบริหารธุรกิจ ฟรี! - Builk ประเทศไทย
กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน 2. Scope Product/Services ที่จะหยิบมาวิเคราะห์ให้แคบหรือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ได้ Core Value ที่แท้จริง จากภาพแคนวาสด้านล่าง จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ image credit 1. ลูกค้า (วงกลมด้านขวา) 2. ผลิตภัณฑ์และบริการ (สี่เหลี่ยมด้านซ้าย) Note: เวลาทำ ให้เริ่มต้นจากฝั่งลูกค้าก่อน เมื่อเสร็จแล้วจึงค่อยไปทำฝั่ง Products/Services มาดูกันที่ส่วนแรก เป็นการระบุความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะประกอบไปด้วย 3 ช่องเรียงลำดับการทำตามนี้ 1. Customer Jobs ให้ระบุสิ่งที่ลูกค้าต้องการหรืออยากได้ ทั้งในแง่ของฟีเจอร์ ฟังก์ชัน หรือแม้กระทั่งอารมณ์ความรู้สึก หรือประสบการณ์ในการใช้งานที่ลูกค้าอยากได้ ใส่มาในช่องนี้ให้หมด 2. Gains ระบุสิ่งที่จะ add on / top up ความต้องการของลูกค้าใน Customer Jobs ที่จะยิ่งเติมเต็มความชอบ ความพอใจ ความอยากใช้ product หรือบริการของเรามากยิ่งขึ้น 3. Pains ระบุสิ่งที่เป็น pain point สิ่งที่ลูกค้าไม่อยากได้ ไม่ชอบ หรืออะไรที่จะสร้างประสบการณ์ใช้งานแย่ๆ แก่ลูกค้า ให้ใส่มาไว้ในช่องนี้ จากนั้นหันมาโฟกัสส่วนที่สอง นั่นก็คือ คุณค่าของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เราจะเสิร์ฟให้ลูกค้า แต่จงจำไว้ว่า.. เวลาทำส่วนนี้เราจะอิง mapping กับ Customer Segment ที่ได้ทำไปแล้วเสมอ ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วน เรียงลำดับการทำไล่ตามนี้เลย 1.
EP11: เริ่มต้นอย่างไร ถ้าอยากเข้าใจลูกค้า - Management in Action
- Gain point คือ restaurant
- Z650 ราคา 2020 calendar
- Gain point คือ chart
- เปลี่ยน Pain Point เป็น Gain point ด้วย ซอฟต์แวร์ ช่วยบริหารธุรกิจ ฟรี! - BUILK ประเทศไทย
- Gain point คือ t
- Ignite : รร ภูซางวิทยาคม จ.พะเยา - YouTube
Method
มีเทมเพลตเพียบบบ ยกเว้นเทมเพลต VPC ไม่มี!! อ้าววว แต่ช้าก่อน แม้ว่าจะไม่มีเทมเพลต VPC ให้เลือก แต่เราก็สร้างเองได้ง่ายๆ เพราะทุกคนได้เห็นแล้วว่าหน้าตาของเทมเพลตไม่ยากเลยใช่มั้ยล่า อีกข้อดีที่โดดเด่นของ miro ก็คือ team member ทุกคนสามารถ join ทำออนไลน์พร้อมกันได้เลย จะ Work From Home / From Office หรือ เอนี่แว ก็สามารถค่ะ แปะลิงก์ไว้ให้ตรงนี้ แล้วพี่ๆ จะติดใจ web tools ตัวนี้เหมือนหนูแน่นอนนน วิดีโอแนะนำ VPC ดาวน์โหลดฟรี Value Proposition Canvas Template Credit & Reference:
Observe - การสังเกต การสังเกตสิ่งรอบตัวผู้ใช้หรือลูกค้า ทั้งสิ่งแวดล้อม ความคิด การแสดงออก ภาษากาย การพูด สิ่งที่ทำออกมา ทั้งที่พูดและไม่ได้พูดออกมา จะเป็นสิ่งสำคัญในการในการทำให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น 3.
ลูกค้ารับรู้ รู้จัก ตระหนักสินค้าหรือบริการของเราได้อย่างไร ผ่านช่องทางไหน 2) Consideration ลูกค้าค้นหาข้อมูลเพื่อพิจารณา ประเมิน เปรียบเทียบอย่างไร 3) Decision อะไรที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกสินค้าหรือบริการ 4) Experience ประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าเป็นอย่างไร และ 5) Engagement ลูกค้ามีความผูกพันกับสินค้าและบริการหรือไม่?
Calculator
: 081-560-9994 (โทรกลับเฉพาะเบอร์มือถือนะคะ)
Views: 236 โอกาสดี ใช้ ซอฟต์แวร์ฟรี สำหรับพี่ๆผู้รับเหมา!! กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) สร้างโอกาสให้ SMEs ด้วยการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ "ใช้ ซอฟต์แวร์ ช่วยบริหารกิจการ " แบบไม่มีค่าใช้จ่าย เมื่อโลกกำลังหมุนไปอย่างรวดเร็ว วงการก่อสร้างเองยิ่งต้องรีบติดสปีดให้ก้าวทัน BUILK โปรแกรมควบคุมต้นทุนก่อสร้างใช้ฟรี สำหรับผู้รับเหมา SME ที่จะช่วยให้พี่ๆ คุมต้นทุนก่อสร้าง ทำงานอย่างเป็นระบบ อุดรอยรั่ว เพิ่มกำไรในแต่ละโปรเจคได้จริงกว่า 2. 6% BUILK ช่วยพี่ๆได้ยังไง? ___________________________ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 02-101-2851
Chart
วันนี้อยากชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ Business Tool ตัวหนึ่ง ซึ่งเราขอนิยามว่า.. เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คนทำธุรกิจ คิด Products และ Services ได้ตรงใจลูกค้าที่สุด! เครื่องมือตัวนี้มีชื่อว่า "Value Proposition Canvas" หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า "VPC" และก่อนที่จะไปเรียนรู้ทูลตัวนี้ เราขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ คุณ "Alex Osterwalder" ผู้ที่คิดค้นผืนผ้าใบแห่งความสำเร็จชิ้นนี้แบบคร่าวๆ กันก่อน ถึงแม้ว่าหลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อชายผู้นี้ แต่เราเชื่อว่าต้องรู้จักหรือเคยได้เห็นผลงานของเขาผ่านตามาบ้างแน่นอน Alex Osterwalder เป็นนักคิดชาวสวิสเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีผลงานชิ้นสำคัญขนาดที่ว่า ถ้าบอกออกไปทุกคนต้องร้อง อ๋อออ!! แน่ๆ เพราะเขาคือผู้คิดค้น Business Model Canvas อาวุธที่คนทำธุรกิจรู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นเอง นอกจากนี้เขายังเขียนหนังสือหมวดธุรกิจที่ติด Best Selling ทั่วโลกอีกหลายเล่ม อย่างเช่น Business Model Generation, Value Proposition Design, Testing Business Ideas และเล่มล่าสุดที่พึ่งออกมาปีนี้เลยก็คือ The Invincible Company ใครที่ชอบเดินร้านหนังสือ ต้องเคยเห็นสามสี่เล่มนี้ชัวร์! ส่วนในมุมของความเป็น "Entrepreneur" เขาคือ Founder และ Co-Founder องค์กรที่บริษัทชั้นนำทั่วโลกไว้วางใจให้ดูแลกลยุทธ์สร้างการเติบโตของบริษัท (Growth Strategy) Value Proposition Canvas — VPC เป็นเครื่องมือแนว design thinking ที่จะช่วยให้เรา "ออกแบบ" หรือ "ปรับปรุง" Products / Services ของธุรกิจเรา ให้โดนใจและสร้างคุณค่าแก่ลูกค้าได้จริง ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือ Business ของเราก็จะ Growth ตามไปด้วยนั่นเอง เจ้าของผลิตภัณฑ์ (Product Owners) เจ้าของธุรกิจ (Business Owners) ผู้ที่มีหน้าที่คิดหรือออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ (Products and Services Creators) นักการตลาด (Marketer) 1.
Products & Services ให้ระบุ Value ของ Products/Services ที่เป็นจุดเด่นจุดแข็ง สามารถตอบโจทย์ Customer Jobs แต่ละรายการได้ 2. Gain Creators ระบุคุณสมบัติของ Products/Services ที่จะทำให้ลูกค้าชอบ ประทับใจ อยากใช้งานของเรามากกว่าของคู่แข่ง โดยคิดให้ตอบโจทย์กับ Gains ที่ลูกค้าต้องการจริงๆ 3.
สูงและชัน 102 Elevation gain จาก สูงและชัน 101 เราคุยกันเรื่อง ความสูง และความชันเบื้องต้นกันไปแล้ว คราวนี้เรามาคุยกันสั้นๆ เรื่อง.... Elevation gain ความสูงสะสมรวมของทั้งเรซ มาดูกัน ว่า"สะสม"กันแบบไหน ดูภาพกันเลย รายการวิ่ง ปาโจเทรล(นามสมมุติ) ระยะ 40 กิโลเมตร ยอดเขายอดที่สูงที่สุด สูง 1500 เมตร เทียบกับจุดสตาร์ท เรซนี้นี้ มีค่าเกน 2000 เมตรครับ นับยังไง? ภูเขาลูกแรก ไต่ขึ้นสูง 1000 เมตร ไต่ถึงยอดแล้ว ทดไว้ในใจ ^^ ตอน down hill ระวังดีๆ อย่าสะดุดรากไม้ เดี๋ยวไอที่ทดไว้หาย ขึ้นลูกที่สอง ไต่ขึ้นอีก 1000 เมตร เอามารวมกับที่ทดไว้ในใจ 1000+1000 ครับ นับแต่เฉพาะความสูงที่เราต้องไต่ขึ้น มารวมๆกัน ความสูงที่สะสมทั้งหมด รวมกันได้ 2000 เมตร ด้วยวิธีคิดแบบนี้ เราจึงเรียกว่า Elevation gain ความสูงสะสม สรุปแบบพูดสั้นๆ ไทยสไตล์ ปาโจเทรล 40k gain 2000 m คราวนี้มาดูอีกเรซ ทรายขาวเทรล(นามสมมุติเช่นกัน ^^) ทรายขาวเทรล 40k เช่นกัน ดูออกไหมครับ ว่า เกน เท่าไร ขึ้นเขา 4 ครั้ง ครั้งละ 500 เมตร ครับ!!! ทรายขาวเทรล 40k เกน ก็ 2000 เมตรเช่นกัน ทั้งๆที่ ยอดสูงสุดสูงแค่ 500 เมตร แล้วความชันล่ะ สองเรซนี้ ตอนไต่ขึ้น นับชันที่สุดของแต่ละเรซ เรซไหนความชันมากกว่า?
ลองหาเองเล่นๆไหมครับ จะได้เอาไว้ปรับตั้งการซ้อมถูก นึกถึงฟิสิกส์สมัยมัธยม ความสูงที่แตกต่าง คือการสะสมพลังงานศักย์ที่ต่างกัน ในขณะที่ความชันที่แตกต่าง สร้างความต่างในแง่การได้เปรียบเชิงกล ^^ ตรงๆนี้ข้ามๆไปก็ได้ครับ ไอสองสามบรรทัดตะกี้ ถือซะว่าลมพัดใบไม้ไหว อ้อ เฉลยนิดนึง ความชัน ของปาโจเทรล (1, 000m)÷(10, 000) =0. 1 จับคูณด้วยร้อย เพื่อความสบายตา ปาโจเทรล ชัน 10% ทรายขาวเทรล (500m)÷(5, 000m) 10% เช่นกัน ชอบสนามแบบไหนกว่ากันครับ;) อ้อ ตอนเราวิ่งเอง ไม่ต้องนับ ไม่ต้องทดในใจนะครับ นาฬิกามันคอยเติม คอยบวกให้เราตลอดเวลา ตรงที่โชว์ว่า Ascent นั่นล่ะครับ ขอบคุณสำหรับการแวะเวียนมาอ่านนะครับ ตอนสาม รอนิดนึงนะครับ